X-Men 3: The Last Stand (2006) หรือ เอ็กซ์-เม็น รวมพลังประจัญบาน เป็นบทสรุปของไตรภาคแรกของแฟรนไชส์ X-Men ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับทางเลือกที่เปลี่ยนอนาคตของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์และมนุษย์ธรรมดาอย่างถาวร โดยเนื้อเรื่องในภาคนี้เน้นไปที่ความขัดแย้งระหว่าง การอยู่ร่วมกัน กับ การแยกตัวออกจากสังคม

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อมีการค้นพบ ยารักษาการกลายพันธุ์ ซึ่งสามารถลบล้างพลังพิเศษของมนุษย์กลายพันธุ์ได้ ทำให้เกิดความเห็นต่างอย่างรุนแรงในกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์ บางคนมองว่ายาเป็นโอกาสที่จะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา ในขณะที่บางคนเห็นว่าเป็นการลิดรอนสิทธิ์และเอกลักษณ์ของพวกเขา

ผู้นำของกลุ่มที่มีมุมมองแตกต่างกัน ได้แก่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ซาเวียร์ (รับบทโดย แพทริค สจ๊วต) ผู้สนับสนุนการอยู่ร่วมกับมนุษย์ธรรมดา และ แม็กนีโต้ (รับบทโดย เอียน แม็คเคลเลน) ผู้เชื่อมั่นว่ามนุษย์กลายพันธุ์คือผู้ที่แข็งแกร่งกว่า และไม่ควรยอมรับชีวิตที่ถูกกดขี่

แม็กนีโต้ นำกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์หัวรุนแรงเข้าสู่สงครามเพื่อทำลาย “ยาเยียวยา” และยืนยันความเหนือกว่าของมนุษย์กลายพันธุ์ ในขณะที่ เอ็กซ์-เม็น นำโดย วูล์ฟเวอรีน (รับบทโดย ฮิวจ์ แจ็คแมน) และ สตอร์ม (รับบทโดย ฮัลลี เบอร์รี่) ต้องรวมพลังเพื่อหยุดยั้งสงครามที่อาจทำลายทั้งมนุษย์กลายพันธุ์และมนุษย์ธรรมดา

ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ยังเล่าเรื่องราวของ จีน เกรย์ (รับบทโดย ฟามเก แจนเซ่น) ที่กลับมาจากความตายในรูปแบบที่ทรงพลังและอันตรายกว่าเดิม เธอกลายเป็น ฟีนิกซ์ ซึ่งมีพลังที่ไม่สามารถควบคุมได้ และต้องเลือกระหว่างการเป็นตัวเธอเองหรือกลายเป็นภัยต่อทุกคนรอบตัว

X-Men 3: The Last Stand เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันสุดตระการตาและการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สะท้อนถึงความขัดแย้งของการยอมรับความแตกต่างและการอยู่ร่วมกันในสังคม ภาพยนตร์นี้นำเสนอประเด็นที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับ อัตลักษณ์, เสรีภาพในการเลือก, และ ความเสียสละ ที่เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ต้องเผชิญเพื่อค้นหาสันติภาพ

ภาคนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเรื่องราวในจักรวาล X-Men และทิ้งคำถามไว้ให้ผู้ชมคิดต่อเกี่ยวกับการยอมรับความแตกต่างและการต่อสู้เพื่อสิทธิ์ที่เท่าเทียม