Transformers: Dark of the Moon (2011) – ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 3: ดาร์ค ออฟ เดอะ มูน

ใน Transformers 3 เรื่องราวยังคงติดตามชีวิตของ แซม วิทวิคกี้ (รับบทโดย ไชอา ลาบัฟ), หนุ่มที่กำลังย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ พร้อมกับการพยายามรักษาความสัมพันธ์ของเขากับออโต้บอทส์และ ออพติมัส ไพรม์ แซมต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ในการเริ่มต้นชีวิตการทำงานและการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกัน เขายังต้องเผชิญกับอันตรายที่เกิดจากสงครามระหว่างออโต้บอทส์และดีเซปติคอนส์

เรื่องราวในภาคนี้มีฉากหลังเป็นการแข่งขันด้านอวกาศระหว่าง สหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามเย็น ซึ่งความจริงก็คือ เหล่าทรานส์ฟอร์เมอร์มีบทบาทซ่อนเร้นอยู่ในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญนี้ การลงจอดบนดวงจันทร์ของสหรัฐฯ ในปี 1969 ไม่ได้เป็นเพียงการสำรวจดวงจันทร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการค้นพบซากยานอวกาศของออโต้บอทส์ ซึ่งภายในยานนั้นมี เซนติเนล ไพรม์ ผู้นำของออโต้บอทส์ในอดีต

เซนติเนล ไพรม์ถูกพบและถูกนำกลับมาที่โลก โดยมีความสามารถพิเศษในการเปิดใช้งานสะพานเชื่อมเพื่อเคลื่อนย้ายวัตถุขนาดใหญ่ ซึ่งกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ดีเซปติคอนส์ต้องการใช้เพื่อครอบครองโลก การกลับมาของ ช็อคเวฟ หุ่นตัวร้ายที่ทรงพลังและโหดเหี้ยม ทำให้เหล่าดีเซปติคอนส์แข็งแกร่งขึ้น และกลายเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ

ออพติมัส ไพรม์ และเหล่าออโต้บอทส์ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องมนุษยชาติอีกครั้ง ในขณะที่แซมต้องรับมือกับความท้าทายทั้งในชีวิตส่วนตัวและความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับสงครามของเหล่าทรานส์ฟอร์เมอร์ เขาและเพื่อนใหม่ คาร์ลี (รับบทโดย โรซี่ ฮันทิงตัน-ไวท์ลีย์) ต้องร่วมมือกับออโต้บอทส์เพื่อหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายของดีเซปติคอนส์ที่ต้องการทำลายโลก

Transformers: Dark of the Moon เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่ยิ่งใหญ่ ฉากการต่อสู้ที่ตื่นเต้น และเทคนิคพิเศษที่น่าทึ่ง ผู้ชมจะได้เห็นการต่อสู้สุดอลังการที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความเสี่ยงเมื่อออโต้บอทส์ต้องเผชิญกับอันตรายครั้งใหญ่ที่สุด เรื่องราวในภาคนี้ยังสะท้อนถึงการเติบโตของแซม ที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้ายและต้องทำหน้าที่สำคัญในการรักษาสันติสุขของโลก เป็นการต่อสู้ที่ทำให้ผู้ชมต้องลุ้นไปกับทุกฉากของการผจญภัยและความกล้าหาญ