หรือ Fast & Furious เป็นภาคที่กลับมาสานต่อความระห่ำของการซิ่งรถสุดมันส์ โดยเรื่องราวในภาคนี้เริ่มต้นเมื่อโดมินิค โทเร็ตโต้ (วิน ดีเซล) ที่ใช้ชีวิตหลบซ่อนตัวอยู่ในโดมินิกันกับเล็ตตี้ (มิเชล ร็อดริเกซ) แต่ชีวิตสงบสุขต้องสิ้นสุดลงเมื่อเล็ตตี้ถูกฆาตกรรมอย่างปริศนา ทำให้ดอมตัดสินใจกลับมายังแอลเอเพื่อแก้แค้นและสืบหาความจริง

ในขณะเดียวกัน ไบรอัน โอคอนเนอร์ (พอล วอล์กเกอร์) ที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ต้องรับมือกับภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มค้ายาข้ามชาติ ซึ่งเขาและดอมได้พบกันอีกครั้งในการตามล่าตัวบราแกน เจ้าพ่อค้ายาผู้โหดเหี้ยม ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันแม้จะมีความขัดแย้งและอดีตที่ยังค้างคาใจ เพื่อปกป้องคนที่พวกเขารักและทำลายเครือข่ายค้ายาเสพติดขนาดใหญ่

ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยฉากแอ็คชันที่เร้าใจ โดยเฉพาะการไล่ล่ารถสุดระทึกที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของซีรีส์ พร้อมทั้งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่เพิ่มความลึกซึ้งให้กับเรื่องราว ทำให้ Fast and Furious 4 เป็นอีกหนึ่งภาคที่แฟน ๆ ต่างชื่นชอบและยังคงเป็นตำนานของการแข่งรถที่ไม่มีวันหยุด

Fast and Furious 4 (2009) หรือ Fast & Furious คือการกลับมาอย่างเต็มรูปแบบของแฟรนไชส์รถซิ่งที่ตื่นเต้นและเร้าใจ โดยเนื้อเรื่องในภาคนี้เล่าถึงโดมินิค โทเร็ตโต้ (วิน ดีเซล) ที่ใช้ชีวิตลี้ภัยในโดมินิกันร่วมกับเล็ตตี้ (มิเชล ร็อดริเกซ) เพื่อหลีกหนีอดีตอันเลวร้าย แต่เหตุการณ์พลิกผันเมื่อเล็ตตี้ถูกฆ่า ทำให้ดอมต้องกลับมายังแอลเอเพื่อแก้แค้นและค้นหาความจริง

ในอีกด้านหนึ่ง ไบรอัน โอคอนเนอร์ (พอล วอล์กเกอร์) ได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอและได้รับมอบหมายให้สืบสวนแก๊งค้ายาข้ามชาติที่เชื่อมโยงกับการตายของเล็ตตี้ ทั้งคู่กลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งในฐานะพันธมิตรที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการกับบราแกน เจ้าพ่อค้ายาผู้โหดเหี้ยมที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังปริศนา

ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยฉากแอ็คชันสุดระทึก การแข่งรถความเร็วสูง และการไล่ล่าที่น่าตื่นเต้น พร้อมด้วยดราม่าที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับครอบครัวและมิตรภาพระหว่างตัวละคร Fast and Furious 4 ไม่เพียงแต่พาแฟน ๆ กลับเข้าสู่โลกของรถซิ่ง แต่ยังขยายเรื่องราวให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยเดิมพันที่สูงกว่าเดิม