เป็นภาคต่อที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและมุขตลกสุดฮา นำเสนอการกลับมาของ กรู (ให้เสียงพากย์โดย Steve Carell) อดีตวายร้ายที่ผันตัวมาเป็นสายลับของหน่วย AVL (Anti-Villain League) แต่ชีวิตของเขากลับพลิกผันเมื่อ บัลธาซาร์ แบร็ตต์ (ให้เสียงโดย Trey Parker) อาชญากรสุดเพี้ยนที่หลงใหลยุค 80 ขโมยเพชรเม็ดใหญ่ไปได้ และกรูไม่สามารถจับกุมเขาได้สำเร็จ ส่งผลให้กรูถูกไล่ออกจากหน่วยงาน

การค้นพบครั้งใหม่ที่เปลี่ยนชีวิต
ขณะที่กรูเผชิญกับความล้มเหลว เขาได้ค้นพบความลับของครอบครัวที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป เมื่อเขารู้ว่าตัวเองมี ดรู พี่ชายฝาแฝดที่มีบุคลิกแตกต่างอย่างสิ้นเชิง แต่เต็มไปด้วยความฝันจะเป็นวายร้ายผู้ยิ่งใหญ่ ความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องทำให้เกิดความปั่นป่วนและการผจญภัยสุดวายป่วง

มินเนี่ยนสุดป่วนที่ไม่เคยหายไป
ในขณะเดียวกัน เหล่ามินเนี่ยน ที่ไม่พอใจกับกรูที่หันหลังให้กับการเป็นวายร้าย ตัดสินใจออกเดินทางผจญภัยด้วยตัวเอง เรื่องราวของพวกเขาสร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้กับภาพยนตร์

จุดเด่นของภาพยนตร์

ตัวร้ายที่มีเสน่ห์: บัลธาซาร์ แบร็ตต์ เป็นตัวร้ายที่น่าจดจำด้วยบุคลิกและความหลงใหลในดนตรีและแฟชั่นยุค 80
การผสมผสานระหว่างครอบครัวและการผจญภัย: เนื้อเรื่องเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างกรู, ดรู, และครอบครัวที่เต็มไปด้วยอารมณ์และเสียงหัวเราะ
มินเนี่ยนกับความฮาไม่หยุด: การเดินเรื่องของมินเนี่ยนยังคงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์นี้สนุกสำหรับทุกวัย

บทสรุป
“Despicable Me 3” มอบทั้งความบันเทิงและข้อคิดเกี่ยวกับความสำคัญของครอบครัวและความสัมพันธ์ การผจญภัยสุดป่วนนี้เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัยที่มองหา ภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทั้งสนุกและซาบซึ้ง